Evolution of Spread : บันทึกการวางไพ่

เวลาเราจะอ่านไพ่ หรือเรียกง่ายๆว่าดูดวง ก่อนอื่นก็คนไม่หนีการสับไพ่ บางคนให้สับตามอายุ บางคนก็ให้สับจนกว่าจะพอใจ หลังจากสับสลับไพ่จนพอใจแล้วก็ถึงเวลาการเลือกไพ่ และการวางไพ่ แต่ละคนก็จะมีวิธีการเลือกและวางไพ่ที่แตกต่างกันไป

  • บางคนอ่านแบบ 1 คำถาม 1 ใบ
  • บางคนอ่านแบบ 1 คำถาม 3 ใบ วางไว้เรียงกัน
  • บางคนอ่านแบบ 1 คำถาม 10 ใบ วางเป็นรูปร่างต่างๆ

แบบสุดท้ายน่าจะเป็นวิธีที่ฮิตที่สุดทั้งในและต่างประเทศ การวางไพ่แบบนี้เรียกว่า Celtic Cross Spread เป็นการวางไพ่สำหรับคำถามที่มีเรื่องราวซับซ้อน และต้องการมุมมองหลายๆอย่างเอามาประกอบกับ

Celtic_Cross_Spread_-_Waite.svg

Celtic Cross Spread

การวางไพ่แบบนี้ดีนะครับ มันตอบแทบทุกอย่างที่มีผลต่อคำถาม เช่น เรื่องในอดีต ต้นตอสาเหตุ มุมมองของคนอื่น ฯลฯ แต่ผมกลับไม่ค่อยได้ใช้วิธีวางแบบนี้เท่าไหร่ ที่ผมชอบใช่กลับกลายเป็น 1 คำถาม 3 ใบ แทน ซึ่งเรียบง่าย ตอบคำถามได้ค่อนข้างชัดเจน แถมเล่นพวกเรื่องธาตุ และความสัมพันธ์ของไพ่ได้ค่อนข้างง่าย เพราะไพ่ไม่เยอะ ไม่งง

3-Card-Spread.svg

3 Cards Spread

แต่เมื่อผมมีโปรเจคใหม่ ในการดูดวงรายเดือนผ่าน Youtube ปัญหาใหญ่ก็ตามมานั่นคือ จะวางไพ่อย่างไรให้วางครั้งเดียวแล้วอ่านได้ครบทุกเรื่อง ทั้งเรื่องงาน เงิน และความรัก นอกจากจะต้องตอบให้ครบทุกเรื่องแล้ว การวางไพ่ต้องได้รูปแบบที่สวยพอควร ไม่รก ไม่กระจัดกระจาย (เรื่องมากจริงๆ)

หลังจากคิดและปรับเปลี่ยนอยู่นาน ก็ได้การวางแบบที่คิดว่าโอเคที่สุด (ณ ตอนนั้น) กลายเป็นการดูดวงดวงรายเดือนโดยใช้ไพ่ 13 ใบ

  • 1 ใบเป็นสถานการณ์ทั่วไป เป็น Theme ใหญ่
  • 3 ใบ สำหรับเหตุการณ์สำคัญในแต่ละเรื่อง ทั้งเรื่องงาน เงิน ความรัก อย่างละ 3 ใบ
  • 1 ใบเป็นคำแนะนำแต่ละเรื่อง เรื่องละ 1 ใบ

View this post on Instagram

Evolution of my Tarot Spreads ???

A post shared by LunarMagus (@notkung_nois) on

การวางไพ่แบบนี้ใช้มาแล้ว 3 เดือน กับทั้ง 12 ราศี คิดว่าโอเคพอสมควร แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ในวันข้างหน้า

การเปลี่ยนการวางไพ่นั้นไม่ได้หมายความว่า การวางไพ่เดิมนั้นไม่แม่นยำ บางครั้งเมื่อเราใช้ไปนานๆ เราจะรู้สึกตัวเองว่า การวางไพ่แบบนี้ อะไรที่มันมากไป อะไรที่มันยังขาดอยู่ การเปลี่ยนการวางไพ่นั้นเป็นการแก้ไขเพื่อให้การอ่านไพ่ดียิ่งขึ้น ครอบคลุมทุกปัญหา และอ่านง่ายขึ้นด้วย

เพราะฉะนั้นถ้าใครแวะเข้าไปดูใน Channel ของผมแล้วเป็นการวางไพ่ที่เปลี่ยนไป ก็อย่าตกใจ เพราะผมคิดว่ามันน่าจะมีอะไรที่สามารถทำให้การอ่านไพ่นั้นดีขึ้นไปได้อีก

(ปล. อย่าลืมเข้าไปให้คำแนะนำ กด Like กด Share กด Subscribe กันเยอะๆนะครับ)

Spread : My First Spread

เมื่อก่อน (จริงก็ไม่ได้นานนักหรอกครับ) เวลาจะดูไพ่ให้เพื่อนๆ หรือน้องๆ สิ่งหนึ่งที่ต้องคิดอยู่เสมอคือ จะใช้ Spread อะไรดี ใช้กี่ใบ ต้องวางตรงไหนบ้าง และแต่ละที่มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง ซึ่งโดยส่วนตัวมีนทำให้น่าปวดหัว และความมั่นใจในการอ่านลดลงอย่างมาก

โดยปกติ Spread พื้นฐานคงหนีไม่พ้น Celtic Cross แบบ 10 ใบ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นฐาน แต่ก็ไม่ใช่ Standard ซะทีเดียว เพราะแต่ละคน แต่ละสำนักก็วางเรียงกันคนละแบบ เช่น Thoth ก็วางอีกแบบหนึ่ง RWS ก็วางอีกแบบ ของไทยก็วางอีกแบบ เวลาคนเอาตัวอย่างดวงมาให้ดู ก็ต้องไล่ถามกันทีละใบเลยทีเดียวว่าวางแบบไหน เรียงอย่างไร (รวมถึงแต่ละตำแหน่งมีความหมายอย่างไรด้วย)

หรือ Spread ง่ายๆ อย่างการวาง 3 ใบก็มีรูปแบบมากมาย เช่น

  • เช้า – กลางวัน – เย็น
  • อดีต – ปัจจุบัน – อนาคต
  • ปัญหา – วิธีแก้ – สรุป
  • ฯลฯ

แต่ที่ร่ายมาทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่า Spread เหล่านี้ไม่ดี ไม่แม่นนะครับ แต่ผมคิดว่าบางทีการยึดติดกับความหมายมากเกินไปมันอาจจะทำให้เราพลาดบางความหมาย หรือบางมุมมองที่ไพ่พยายามจะบอกเราก็ได้

ดังนั้น คราวนี้ผมเลยลองมาบอก Spread ของผมเองที่ผมคิดว่ามัน Work สำหรับผมละกันนะครับ

หลักการของ Spread ของผมมีประมาณนี้ครับ

P_20160518_230931.jpg

  • จำนวนไพ่ที่ใช้ 5 ใบ
  • เรียงจากตรงกลางเป็นไพ่ใบแรก และวางสลับซ้าย และ ขวา ([4] [2] [1] [3] [5])
  • ตำแหน่งต่างๆมีความหมายดังนี้
    • [1] : หมายถึง ความรู้สึก ความคิด หรือสถานการณ์ปัจจุบัน
    • [2] [4] [3] [5]  : หมายถึง สิ่งที่มีผลต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น สิ่งที่อยากทำ อุปสรรคที่เจอ ปัญหาในอดีต หรือแม้แต่ทางเลือกที่ยังรอการตัดสินใจ

สังเกตได้ว่า Spread ของผมเองจะกำหนดความหมายหลักแต่ใบกลาง [1] เพียงใบเดียว ส่วนใบที่เหลือเป็นตัวขยายความใบแรก การขยายความนั้นก็เป็นไปได้หลายแนว เช่น

  • ถ้าความหมายทั้ง 4 ใบไปในทางเดียวกัน จะแสดงถึงสิ่งแวดล้อมที่กำลังเจออยู่ เช่น อาจจะอยู่ในความกดดัน โดนล้อมด้วยปัญหา
  • ถ้าทั้ง 2 ฝั่งความหมายไปในทางตรงกันข้าม สามารถแสดงได้ 2 อย่าง
    • กำลังตัดสินใจว่าจะไปทางไหนดี โดย [2] [3] จะเป็นสิ่งที่ต้องเลือก ส่วน [4] [5] คือ ความคิดที่มีต่อทางเลือกนั้น หรือ สิ่งที่อาจจะเกิดเมื่อเลือกทางนั้นๆ
    • อดีตที่มีผลต่อปัจจุบัน [4][2] และอนาคตที่ความหวัง [3][5]
    • ซึ่งจะตกในกรณีให้ อาจจะต้องลองอ่านทิศทางของไพ่ดู บางครั้งอาจจะต้องสอบถามจากผู้ที่มาดูเพิ่มเติมว่า ใกล้เคียงกับกรณีไหน เพื่อที่จะได้อ่าน และหาปัญหาได้อย่างถูกต้อง

จากภาพด้านบน ตอนจับไพ่ ได้ถามว่า “ตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นกับเขา (ตัวย่อ D)?” (คำถามปลายเปิดสุดๆ)

  • [1] 9 Swords : รู้สึกถึงความวิตกกังวล ความเครียด หยุดนิ่ง คิดหนัก
  • [4][2] 4 Cups และ Queen of Cups : น้ำมาแบบนิ่งๆ รู้สึกถึงความนิ่ง คลุมเคลือ มีอะไรแอบแฝง ภาพที่เห็นอาจจะสวยหรู แต่เหมือนมีอะไรแอบซ่อนอยู่
  • [3][5] Fool และ Knight of Disk : รู้สึกถึงพลัง ความกล้า ความกระตือรือร้น ความสำเร็จ การพักผ่อน
  • ไพ่ทั้ง 2 ฝั่งความหมายไปทางตรงกันข้าม ฝั่ง [4][2] จะดูนิ่งและคลุมเครือ [3][5] ดูมีพลังและชัดเจน
  • ดูจากทิศทาง จากซ้ายไปขวา รู้สึกได้ถึงความพยายามที่จะหลุดจากปัญหา คือไม่อยากอยู่ในสถานการณ์ฝั่งซ้ายแล้ว อยากได้ฝั่งขวา เพราะฉะนั้นฝั่งซ้ายน่าจะเป็นเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้มีผลกับปัจจุบัน ส่วนฝั่งขวาคือเหตุการณ์ที่คาดหวัง

เมื่อดูจากทิศทาง ธาตุ และอารมณ์ของไพ่ จึงแปลได้ประมาณนี้

  • ตอนนี้ D รู้สึกเครียดหนัก ถึงหนักมาก รู้สึกวิตกกังวล (9 Swords) เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรที่สำเร็จหรือเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นเพียงการทำไปวันๆเพื่อให้เสร็จเท่านั้น (4 Cups) แม้ว่ามีคนเข้ามาพร้อมที่จะช่วยเหลือมากมาย แต่ก็ไม่ได้สนใจ สนใจแต่ตัวเองเท่านั้น (Queen of Cups) โดยได้แต่หวังว่า อนาคตคงได้ทำอะไรได้ตามใจ (Fool) แล้วประสบความสำเร็จซักที (King of Disks)

ซึ่งพอสอบถามความถูกต้องก็ถือว่าตรงพอสมควร (รอดตัวไป…)

ตอนนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบอยู่ อาจจะมีผิดบ้าง ถูกบ้าง ก็ต้องฝึกฝนกันไป แต่ใครอยากจะลองนำไปใช้ก็ได้นะครับ แล้วได้ผลอย่างไร อย่าลืมนำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

Seminar : ZTAROT Part 3/3

เอาล่ะ มาถึง Part สุดท้ายของการไปสัมมนาครั้งนี้ ซึ่งใน Part นี้ผมจะมาเขียนถึงประสบการณ์ในภาคทำนาย โดยในครึ่งบ่ายเกือบทั้งหมดจะเป็นการดูตัวอย่างการทำนาย หรือพูดง่ายๆคือตัวอย่างดวงนั้นเอง ประมาณ 50 ดวงได้ และก็มีบททดสอบนิดๆหน่อยๆ เพิ่มให้ลองทดสอบสิ่งที่ได้เรียนมา

โดยหลักๆแล้ว หลักการที่สำคัญที่เขาได้สอนมานั้น คือให้พิจารณาจากตำแหน่ง เลข และธาตุ ตามลำดับ เพียงสามสิ่งนี้ก็สามารถทำนายได้ระดับหนึ่งแล้ว

สิ่งที่น่าสนใจในส่วนนี้คือ

  • การทำนายในบางครั้ง ไม่ได้ยึดตำแหน่งเป็นหลัก จะยึดจากความหมายของไพ่ที่เด่นชัดขึ้นมาก่อนเสมอ ทำให้รู้สึกสับสนอยู่บ้าง แต่โดยปกติตัวเองก็ใช้วิธีนี้อยู่แล้ว แต่แค่ขัดกับหลักที่เขาให้ในตอนต้นไปบ้าง
  • เรื่องจำนวนไพ่ดีและไพ่ไม่ดี ตรงนี้ทำให้สับสนพอสมควร เช่น
    • หากพบไพ่บางใบที่มีความหมายในเชิงลบเพียงใบเดียว อาจจะทำให้ไพ่ดีๆลดความหมายลงไปหมด เช่น Page of Sword ที่หมายถึงการพบเจออุปสรรคหรือแม้กระทั่ง King of Pentacle หากเจ้าชะตาเป็นหญิง
    • แต่บางดวง มีไพ่แย่ๆเหมือนกัน เช่น Tower แต่กลับไม่ค่อยส่งผลกระทบเท่าไหร่ เพราะว่าไพ่ดีเยอะ
      กว่า
    • แต่สุดท้ายแล้วในความคิดของตัวเองคือ ต้องดูไพ่รอบๆให้ทั่วก่อน การฟันธงลงไปในใบใดใบหนึ่ง มันอาจจะดูรีบร้อนเกินไปหน่อย เพราะน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในไพ่ใบอื่นๆ
  • การทำนายออกจะเป็นแนวบอกอนาคต และฟันธง เช่น เจ้าชะตาถามว่า จะได้งา5sนไหม คำตอบจากไพ่ คือได้ ซึ่งสิ่งที่ตัวเองคาดหวังคือ อยากได้การหาสาเหตุที่เกิดขึ้นจริงๆมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามส่วนตัวคิดว่า ถ้าทำนายแบบนี้ออกไปได้แล้ว การหาสาเหตุน่าจะตามมาอีกที (แต่ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาดูก็อยากได้คำตอบแนวนี้เช่นกัน)
  • ระบบเลขและธาตุส่วนใหญ่จะใช้ในการแปลความหมายของไพ่ มากกว่าการหาความสัมพันธ์ระหว่างไพ่ เช่น เช่น เลข 5 ธาตุลม แสดงความความล้มเหลวทางความคิด ปัญหา หรือ Hangman คือการสมมติ การปลอมแปลงเอกสาร หรือ 2 ธาตุดิน คือการมีเอกสารสำรอง?? ซึ่งไพ่แต่ละใบค่อนข้างจะมีความหมายอย่างโดดๆ แทบไม่ได้แลกเปลี่ยนความหมายกันในเชิง ตำแหน่ง เลข ธาตุ หรือราศีและดาว
  • Spread ที่ใช้งานมีหลักการที่น่าสนใจ คือ ให้ใช้ตามความซับซ้อนของคำถาม เช่น ถ้าคำถามไม่ยากมากนัก ก็ใช้แบบใบเดียว หรือ 3 ใบ ถ้าเป็นเรื่องยุ่งยากหรือจริงจังก็ให้ใช้ 10 ใบ และ Celtic cross ก็เป็นแบบที่ไม่เคยใช้มาก่อน รวมถึงความหมายในแต่ละตำแหน่งก็พึ่งได้รู้ความหมายและวิธีใช้งานของมันจริงๆ (ซึ่งต่างจากตำราต่างประเทศมากๆ)

ภาพจาก www.astrosimple.com

 

สรุปสุดท้ายแล้ว การเข้าสัมมนาในครั้งนี้ ก็ได้เปิดมุมมองอะไรหลายๆอย่าง โดยเฉพาะความรู้เรื่อง Numerology ซึ่งแม้ว่าจะขัดกับสิ่งที่รู้มาบ้าง แต่ก็ได้ไอเดียใหม่ๆในอีกมุมมองหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้ไพ่ที่ผ่านการปลุกเสกมาเรียบร้อยแล้วเป็นของที่ระลึกอีกด้วย (แต่คงไม่ได้ใช่หรอกครับ 5555)

SDeck.jpg

ไพ่ที่ได้ในงาน

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากประเมินตามความคาดหวังแล้ว คงยังไม่ได้ตามคาดเท่าที่ควร โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมโยงไพ่ในการทำนาย ซึ่งคาดหวังว่าจะมีการใช้ระบบธาตุ ระบบตัวเลข ระบบราศีและดาว มาก แต่กลับกลายเป็นว่าแทบไม่ได้ใช้เลย และอาจจะป็นเรื่องของเวลา เนื้อหาจึ่งค่อนข้างอัดแน่นและไม่ได้ถามอะไรเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตามก็ขอขอบคุณอาจารย์มากที่ได้แบ่งปันและมอบความรู้ในอีกมุมมองหนึ่งที่ไม่เคยได้เรียนรู้จากที่ไหน หวังว่าประสบการณ์ในครั้งนี้จะทำให้ตัวผมเองสามารถนำไปประยุกต์ใช้ และต่อยอดได้ต่อไป ขอบคุณมากครับ

ปล. ก่อนไปสัมมนาในครั้งนี้ได้หยิบไพ่ขึ้นมาใบหนึ่ง ซึ่งถามว่า จะได้อะไรจากการสัมมนาในครั้ง คำตอบก็เป็นไปดังภาพด้านล่างครับ

Temperance

ได้รู้อะไรใหม่ๆ และสามารถนำไปต่อยอด

Part อื่นๆ